การนอนเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตของคนทุกคน โดยปกติแล้วแต่ละคนใช้เวลาในการนอน 5-8 ชั่วโมง/วัน หรือเทียบเท่ากับช่วงเวลา 1 ใน 3 ของแต่ละวัน เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆที่เป็นองค์ประกอบร่วมกับการนอนอย่างเป็นพิเศษ ทั้งบรรยากาศภายในห้องนอน เบาะนอน หมอน และชุดผ้าปูที่นอน ซึ่งบทความนี้ BEEclean รวบรวมความแตกต่างของชนิดผ้าปูที่นอนมาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกันค่ะ
ผ้าปูที่นอนแบบไม่รัดมุม
จุดเด่น ของที่นอนประเภทนี้ก็คือ มีความสวยงาม และง่ายต่อการทำความสะอาด จัดเก็บง่าย ตามโรงแรมที่พักทั่วไป จึงนิยมใช้ผ้าปูชนิดนี้กัน
ข้อเสีย ของที่นอนแบบรัดมุมผู้ที่จะจัดการเตรียมห้องนอน จะต้องมีประสบการณ์พอสมควร เพื่อให้ที่นอนที่ปูออกมาไม่ยับและราคาของผ้าปูประเภทนี้ก็มักจะมีราคาสูง เนื่องจากต้องเผื่อผ้าสำหรับเก็บสอดใต้เตียงด้วย
ผ้าปูที่นอนแบบรัดมุม
จุดเด่น สามารถจัดเตรียมได้ง่าย ปูได้สะดวก ไม่ต้องอาศัยประสบการณ์เหมือนกับแบบแรก ถ้าหากซื้อขนาดของผ้าปูได้ถูกต้อง ก็ใช้งานได้ทันที อีกอย่างก็คือราคาประหยัดกว่า
ข้อเสีย เวลาที่ปูที่นอนแล้ว มักจะทำให้เกิดรอยยับตรงหัวมุมที่นอน ซึ่งทำให้เวลามองแล้วไม่สวยงามได้
ผ้าปูที่นอนผ้าฝ้าย
ผ้าปูที่นอนที่ทำจากผ้าฝ้าย เป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจากเป็นผ้าที่มีคุณสมบัติพิเศษ สัมผัสนุ่มอ่อนโยน ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ระบายความร้อนได้ดี เหมาะมากสำหรับบ้านเมืองร้อนอย่างเรา แต่ผ้าปูที่นอนผ้าฝ้าย อาจมีราคาสูง
ผ้าปูที่นอนซาติน : เป็นเนื้อผ้าที่มีส่วนผสมของเส้นใยโพลีเอสเตอร์ 100% มีผิวสัมผัสที่นุ่มลื่นเย็นสบาย เนื้อผ้ามีน้ำหนัก มีผิวมัน ให้ความรู้สึกหรูหรา
ผ้าปูที่นอน CVC : มีส่วนผสมระหว่างผ้าฝ้าย 50% และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ 50% ผสมผสานความโดดเด่นระหว่างผ้าฝ้ายและผ้าซาตินเข้าด้วยกัน ทำให้ผ้าปูที่นอนชนิดนี้มีความนุ่มและทนทานมากกว่าผ้าซาติน
ผ้าปูที่นอน Cotton Satin : มีส่วนผสมของผ้าฝ้าย 100% และมีริ้ว Satin หนา 1 นิ้ว เป็นผ้าที่นุ่มมาก ยิ่งซักก็ยิ่งนุ่ม มีราคาที่สูงมากกว่าผ้าปูที่นอนที่ทำจากผ้าฝ้าย เหมาะกับการนำมาใช้เป็นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวม
