เบกกิ้งโซดา ที่ไม่ธรรมดา

เบกกิ้งโซดา นับเป็นผงสารพัดประโยชน์ที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้ ที่ไม่ได้มีไว้ใช้แค่ทำขนมอย่างเดียว แน่นอนว่าหลาย ๆ บ้านคงมีเบกกิ้งโซดาติดไว้ใช้กันอยู่แล้ว เพราะน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเบกกิ้งโซดานั้นสามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้มากมาย ชนิดที่ว่าทั้งทางด้านความสวยงามและการทำความสะอาดเลยก็ว่าได้ เรามาดูกันสิว่า เบกกิ้งโซดาสามารถนำมาใช้ประโยนช์อะไรเกี่ยวกับการทำความสะอาดบ้านได้บ้าง

” เบกกิ้งโซดา ที่ไม่ได้มีเอาไว้แค่ทำขนม “

เบกกิ้งโซดาคืออะไรกันแน่

เบกกิ้งโซดามีชื่อทางเคมีว่า โซเดียม ไบคาร์บอเนต ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของเกลือ จึงมีรสชาติเค็มและมีลักษณะเป็นผลึกสีขาวที่ละลายน้ำได้ เบกกิ้งโซดามีความเป็นด่างทำให้มีรสชาติขมและเฝื่อน แต่ไม่มีกลิ่น ด้วยความเป็นด่าง เบกกิ้งโซดาจึงทำปฏิกิริยากับกรดและของเหลวทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยปฏิกิริยานี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีความร้อนเข้ามากระตุ้น คุณสมบัติทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาที่เรานำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้มากมาย

1. ใช้ทำความสะอาดหวีได้ 

โดยคุณเพียงแค่เอาหวีจุ่มลงไปในน้ำอุ่นถ้วยเล็ก ๆ ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา แล้วแกว่งให้เศษผมหลุดออก ก่อนจะนำมาตากให้แห้ง เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว

2. ลืมความยุ่งยากในการทำความสะอาดพรมไปได้เลย 

เพราะเบกกิ้งโซดาสามารถช่วยคุณได้ โดยคุณเพียงแค่โรยเบกกิ้งโซดาทิ้งไว้บนพรมสัก 15 นาทีก่อนจะใช้เครื่องดูดฝุ่นจัดการให้เรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จ

3. เวลาซักผ้านอกจากใช้น้ำยาซักผ้าแล้ว 

หากเติมเบกกิ้งโซดาลงไปสัก 4 ถ้วยด้วยก็จะช่วยให้ผ้าสะอาดมากขึ้น

4. กำจัดรอยไหม้ตามหม้อหรือกระทะ

ด้วยการเอาเครื่องครัวเหล่านี้ไปแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมเบกกิ้งโซดาพอประมาณสัก 15 นาทีก่อนจะล้างออก ก็จะช่วยให้รอยไหม้เลือนหายไปได้

5. หากใช้โรยตามเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับ 

ก็จะเป็นการช่วยขจัดกลิ่นเหล่านั้นออกไป

6. ผสมเบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วยกับน้ำอุ่น

สัก 1 ถังแล้วเอาไปเช็ดพื้น จะช่วยให้พื้นสะอาดแวววาวมากขึ้น

7. ลองทำน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำเอง 

ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดา 1 ใน 4 ถ้วย และน้ำยาทำความสะอาด 1 ช้อนชา พร้อมทั้งน้ำส้มสายชูเล็กน้อยผสมกัน เท่านี้ก็สามารถเอาไปขัดห้องน้ำให้สะอาดได้ง่าย ๆ แล้ว

8. ทำความสะอาดครื่องชงกาแฟ 

ด้วยการโรยเบกกิ้งโซดาลงไปพอประมาณ แล้วกดให้เครื่องทำงานตามปกติ ก็จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะติดให้น้อยลงได้

9. โถส้วมก็สามารถทำความสะอาดได้ด้วยเบกกิ้งโซดาเช่นกัน 

เริ่มจากการใช้เบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ใน 4 ถ้วยโรยลงไปให้ทั่่วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงขัดออก

10. ใช้เบกกิ้งโซดา 3 ส่วนต่อน้ำ 1 ส่วนเช็ดตามโลหะ 

จะช่วยให้เครื่องเรือนของคุณสะอาดแวววาวได้อีกครั้ง

11. หากครัวของคุณเต็มไปด้วยคราบมัน 

การใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูอย่างละ 1 ถ้วยเช็ดสามารถช่วยขจัดคราบเหล่านั้นให้คุณได้

12. ช่วยสร้างกลิ่นหอม

หากเราผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำมันหอมระเหย ใส่กล่องแล้วเปิดฝาไว้นิด ๆ วางในตู้เสื้อผ้า จะช่วยลดกลิ่นอับชื้นในตู้ได้เป็นอย่างดี หรือหากใครมีดอกไม้หอมที่เราชอบ จะโรยลงไปด้วยก็ได้ หรือเจาะรูเอาไว้ หรือจะใส่ถุงแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า ก็จะช่วยให้ลดกลิ่นอับชื้นได้เป็นอย่างดี

13. ช่วยลดกลิ่นอับ

หากบ้านเรามีตู้ไม้เก่า ๆ ที่มีกลิ่นอับ แต่เราอยากปรับปรุงเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ก็สามารถทำได้โดยง่าย ๆ ด้วยการโรยไว้ตามมุมตู้ ตามลิ้นชัก หรือช่องเล็กช่องน้อย หรือใส่ไว้ในถ้วยเล็ก ๆ แล้วเอาไปวางไว้ในตู้ก็ได้ แต่ควรนำไปวางหลังจากทำความสะอาดเศษฝุ่น คราบต่าง ๆ ออกหมดแล้ว หลังจากนั้น ก็ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดทำความสะอาดซ้ำ หากยังมีกลิ่นตกค้างอยู่ก็ทำซ้ำอีก รับรองเลยว่าไม่นานกลิ่นอับก็จะหายไป

14. ช่วยดับกลิ่นเหม็น

เช่น ถังขยะในบ้านเราที่ใช้งานไปนาน ๆ จะมีทั้งกลิ่นไม่สะอาด กลิ่นเหม็น กลิ่นชื้น แม้ว่าเราจะล้างทำความสะอาดด้วยน้ำอยู่บ่อย ๆ แล้วก็ตาม ยังไม่สามารถลดกลิ่นเหล่านั้นลงได้ ให้เราเท Baking Soda ในถังขยะ สัก 2-3 ชั่วโมง แล้วค่อยขัดทำความสะอาดด้วยการใช้แปรงสีฟันเก่า ๆ เมื่อขัดเสร็จแล้วก็ล้างน้ำอีกครั้ง กลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านั้นจะหายไปอย่างแน่นอน

15. ดับกลิ่นที่นอน

เตียงนอนของเราเป็นที่ที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ นอกจากการดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ และหากเราต้องการให้ที่นอนสะอาด มีกลิ่นสดชื่น ไม่มีกลิ่นอับ ๆ มาคอยกวนใจ ให้ใช้ผสมกับน้ำมันหอมระเหย แล้วโรยลงบนที่นอน จากนั้นให้ใช้แปรงที่มีขนนุ่มขัดเพียงเบา ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง เท่านี้เราก็จะได้ที่นอนที่เหมือนใหม่คืนมาอีกครั้ง

16. ดับกลิ่นสัตว์เลี้ยง

บ้านไหนที่มีสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว มีอุปกรณ์ทั้งจานข้าว ถ้วยใส่น้ำ ห้องน้ำ กระบะทราย ของเล่นต่าง ๆ รวมไปถึงที่นอนของเจ้าตัวยุ่งทั้งหลาย แน่นอนว่าอุปกรณ์เหล่านี้ เมื่อใช้งานนานไปก็จะมีกลิ่นสะสม การทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ของสัตว์เลี้ยง ทำได้โดยโรยเบกกิ้งโซดาทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที แล้วค่อยนำไปเช็ดล้างทำความสะอาด รับรองได้เลยว่ากลิ่นเหม็นอับทั้งหลายจะหายไปอย่างแน่นอน

17. ดับกลิ่นอาหาร

หากเราต้องใส่อาหารในกล่องเพื่อนำติดตัวไปทานที่ทำงาน หรือใส่เพื่อเก็บไว้ในตู้ แน่นอนว่าหากใช้งานไปนาน ๆ ในกล่องจะมีกลิ่นอาหารสะสมตกค้างอยู่ เราสามารถกำจัดกลิ่นอาหารได้ง่าย ๆ ด้วยการเทผงเบกกิ้งโซดาลงไป ทิ้งไว้สัก 10 นาที เพื่อให้ทำปฏิกิริยาดูดกลิ่นอาหารออกไป หลังจากนั้นก็นำไปล้างทำความสะอาด

18. ดับกลิ่นในเครื่องดูดฝุ่น

อีกหนึ่งปัญหากวนใจแม่บ้านเลยก็คือ กลิ่นในเครื่องดูดฝุ่นที่กำจัดได้ยาก นั่นก็เพราะเราใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดขยะ ดูดสิ่งสกปรกที่อยู่ตามซอกตามมุม จึงมีกลิ่นไม่พึงประสงค์สะสมเป็นจำนวนมาก ให้เราใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่าให้เป็นเนื้อสครับขัด เช็ดถูทำความสะอาด โดยเฉพาะชิ้นส่วนภายในและถุงกรองฝุ่น แล้วนำไปตากแดดตากให้แห้งก่อนนำกลับมาใช้ใหม่

19. ล้างผ้าม่านห้องน้ำ

หลายคนที่กำลังเบื่อกับปัญหาล้างผ้าม่านห้องน้ำที่เป็นพลาสติก ที่ไม่สามารถล้างคราบสกปรกให้สะอาดหมดจดได้ให้ใช้เบกกิ้งโซดา ผสมสบู่เหลว ให้มีลักษณะเหมือนเนื้อสครับที่มีความเข้มข้น ใช้ฟองน้ำชุบแล้วเช็ดขัดผ้าม่าน เราก็จะได้ผ้าม่านห้องน้ำที่สะอาดเหมือนใหม่อีกครั้ง หรือหากเป็นกระจกกั้นห้องน้ำก็ให้ใช้วิธีเดียวกันทำความสะอาดได้เช่นกัน

20. ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

เราสามารถกำจัดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ที่สะสมในเครื่องซักผ้าได้อย่างง่าย ๆ เลย ด้วยการผสมกับน้ำเปล่า และน้ำส้มสายชู หลังจากนั้นให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำที่ผสม ขัดถูตามขอบยางที่อยู่ด้านในของเครื่องซักผ้าเบา ๆ คราบหมอง คราบสกปรกต่าง ๆ ก็จะหลุดออก จากนั้นจึงค่อยใช้ผ้าสะอาดเช็ดซ้ำอีกครั้ง

21. ลบรอยเปื้อนบนผนังบ้าน

ฝาบ้านของเราอาจทถูกเขียนด้วยดินสอสีเทียนจากเด็ก ๆ ที่เราเช็ดด้วยผ้าธรรมดาแล้วเกิดคราบ ให้เปลี่ยนมาใช้ผ้าเปียกหมาด ๆ ชุบเบกกิ้งโซดาแล้วขัดตามรอยเบา ๆ เหมือนเราลบดินสอหรือปากกา ก็จะทำให้รอยบนผนังของเราหายไปได้โดยง่ายเลย

22. กำจัดคราบฝังแน่นเตาอบ

คนทำขนม ทำอาหาร มักจะเจอปัญหาคราบบนเตาอบที่ทำความสะอาดได้ยาก แต่เรามีวิธีทำได้ง่าย ๆ มาฝากกัน ด้วยการโรยเบกกิ้งโซดาเข้าไปในเตาอบ แล้วพรมน้ำให้ทั่วโดยเฉพาะที่มีคราบมาก ๆ ปล่อยทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้นก็ใช้ฟองน้ำขัด แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง

23. ล้างผักผลไม้ให้สะอาด

ในปัจจุบันผักผลไม้จะมีสารเคมีตกค้างมากมาย เพื่อความมั่นใจก่อนจะกินผลไม้แต่ละชนิด ให้ใช้เบกกิ้งโซดาโรย ๆ ขณะที่เรากำลังล้างผักหรือผลไม้ พร้อมขัดถูที่ผิวหรือเปลือกเบา ๆ หลังจากนั้นก็ล้างน้ำสะอาดซ้ำ

24. แก้ปัญหาท่อตัน

ปัญหาท่อตันเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ทั้งในซิงค์ล้างจานหรือท่ออื่น ๆ ที่แก้แล้วไม่หาย ให้เราใช้น้ำร้อนราดลงไปในท่อที่ตันอยู่ แล้วผสมเบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายชู และน้ำเปล่า อย่างละ 1 ถ้วยตวง เทตามไป ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที หลังจากนั้นให้เราราดน้ำสะอาดตามลงไป คราบหรือสิ่งติดค้างที่ทำให้ท่อตันก็จะหลุดออกไปอย่างง่ายดาย

25. กำจัดกลิ่นอับท่อน้ำทิ้ง

นอกจากท่อตันแล้ว ในท่อยังเป็นที่สะสมของกลิ่นอับที่คอยส่งกลิ่นรบกวนใจเรา มีวิธีการกำจัดกลิ่นในท่อได้ง่าย ๆ ด้วยการเทเบกกิ้งโซดาลงไปในท่อ แล้วปิดปากท่อทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นให้ใช้น้ำร้อนราดตามลงไป เพียงเท่านี้ก็จะกำจัดกลิ่นอับ กลิ่นคราบมัน กลิ่นสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในท่อได้

26. กำจัดคราบเหลืองชักโครกและป้องกันส้วมตัน

คราบเหลือง คราบไคล มักจะติดอยู่ตามขอบด้านในของชักโครก เราสามารถขจัดคราบเหล่านั้นได้ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง ผสมน้ำส้มสายชูลงไปทีละนิด แล้วค่อย ๆ คนจนกว่าจะจับตัว จากนั้นให้เทกรดมะนาว 1 ใน 4 ถ้วยตวง ตามด้วยการหยดน้ำมันหอมระเหย แล้วนำไปเทลงแบบแม่พิมพ์ ทิ้งให้จับตัวเป็นก้อน ก็นำไปใส่ลงไปในชักโครก และเทน้ำร้อนตาม ปิดฝาทิ้งไว้ 1 คืน จะช่วยขจัดคราบสกปรกในชักโครกได้อย่างหมดจด

27. ขจัดคราบตามแนวร่องกระเบื้อง

โดยเฉพาะกระเบื้องพื้นห้องน้ำที่มักจะมีคราบดำ ๆ ด่าง ๆ ของเชื้อรา หรือสิ่งสกปรก ทำให้ห้องน้ำไม่สะอาด ให้เราใช้เบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วยตวง แอมโมเนียหรือน้ำมะนาว 1 ใน 4 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 7 ถ้วยตวง ผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปใส่ขวดสเปรย์ หรือใช้ฉีดพ่นพื้นกระเบื้องห้องน้ำที่มีคราบ พ่นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วขัดคราบสกปรกออกด้วยแปรง

28. กำจัดเชื้อราต้นไม้

ต้นไม้ที่เราปลูกไว้เพื่อความสวยงาม ก็อาจจะเกิดเชื้อรารบกวนได้ ให้เราใช้เบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่า 1 แกลลอน แล้วนำไปรดต้นไม้ หรือใส่ขวดฉีดพ่นตามใบ ตามลำต้นที่เกิดเชื้อรา พ่นเช้าเย็น เพียงเท่านี้เชื้อราที่ขึ้นบนต้นไม้ที่เรารัก ก็จะค่อย ๆ จางหายไป และไม่กลับมาอีกเลย หรือใช้กำจัดหญ้าหรือวัชพืชตามร่องซีเมนต์หรือทางเดิน หากเบื่อการถอนหญ้าที่ขึ้นตามแนวแผ่นทางเดิน เราสามารถกำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยการโรยตามจุดที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหญ้า หรือวัชพืชอื่นใด ก็จะตายได้โดยง่ายเลยทีเดียว

อายุขัยของเบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดามีอายุการใช้งานประมาณ 18 เดือน เมื่อเวลาผ่านไปเบกกิ้งโซดาจะเสื่อมคุณภาพ ควรเก็บเบกกิ้งโซดาไว้ในที่แห้งและใส่กล่องปิดฝามิดชิดเพื่อกันความชื้นและรักษาคุณภาพ คุณสามารถทดสอบความสดใหม่ของเบกกิ้งโซดาได้โดยการใส่เบกกิ้งโซดาลงในน้ำส้มสายชู หากเกิดฟองฟูขึ้นอย่างรวดเร็วและมีฟองจำนวนมากก็แสดงว่าเบกกิ้งโซดาของคุณยังดีอยู่  

ข้อควรระวังในการใช้เบกกิ้งโซดา

แต่สิ่งที่ผู้ใช้ต้องระวังก็คือ ควรใส่เบกกิ้งโซดาแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้ผงชนิดนี้เข้าไปทำปฏิกิริยากับส่วนผสมอื่นๆ เพียงเท่านั้น หากใส่มากจนเกินไปจะทำให้มีรสชาติของสารเคมี ขนมดูไม่อร่อย หรือหากนำผงเบกกิ้งโซดาไปใช้ล้างสารเคมีในผัก และผลไม้ก็ไม่ควรใช้เยอะจนเกินไป เพราะผงจะเข้าไปกัดผิวของผัก และผลไม้ และแทรกซึมลงไปในเนื้อ เมื่อนำมาปรุงอาหาร หรือรับประทานเปล่าก็จะมีรสชาติที่ไม่อร่อย อีกทั้งอาจสะสมในร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัว

เห็นไหมว่าเบกกิ้งโซดาเอามาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายกว่าที่เราคิดจริง ๆ รู้แบบนี้แล้วก็อย่าเก็บเอาไว้เฉย ๆ แล้วลองหันมาใช้ในวิธีใหม่ ๆ กันดูบ้างนะคะ

สนใจเรียกแม่บ้าน โหลดเลย 

Download Application : คลิก !

สอบถามรายละเอียดการเรียกแม่บ้าน  Add Line : @beeclean หรือ คลิก!