เคล็ดลับการดูแลรักษาพื้นไม่ยากอย่างที่คิด!!

วิธีการดูแลพื้นผิวแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การศึกษาถึงวิธีการดูแลและทำความสะอาดพื้นผิวแต่ละชนิด น่าจะสามารถช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทำความสะอาด แถมยังช่วยรักษาพื้นบ้านของคุณให้มีอายุการใช้งานที่มากขึ้น อีกทั้งยังคงความสวยงามคู่บ้านไปได้อีกนาน ในบทความนี้ BEEclean จะมาแนะนำวิธีดูแลพื้นบ้านชนิดต่างๆให้ถูกต้องกันค่ะ

พื้นบ้านชนิดต่างๆ นั้นดูแลรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะสมมากที่สุด

พื้นไวนิล

พื้นไวนิลควรทำความสะอาดด้วยไม้ถูพื้นหรือไม้กวาด จากนั้นใช้พรมหรือฟองน้ำสำหรับถูพื้นชุบน้ำหมาดๆ เช็ดถูเป็นประจำ  การเคลือบผิวไวนิลด้วยน้ำยาเคลือบผิวหรือขี้ผึ้งอย่างสม่ำเสมอจนมากเกินไปนั้น จะทำให้เกิดการจับตัวเป็นคราบหนา ซึ่งอาจส่งผลให้พื้นไวนิลดูหม่นหมองและเกิดริ้วรอยเร็วกว่าเวลาอันควรได้ ดังนั้นการลงขี้ผึ้งซ้ำ จึงควรทำเฉพาะพื้นที่บริเวณที่ใช้งานหนักเท่านั้น

พื้นไม้จริง

พื้นไม้จริงนอกจากจะสวยงามเป็นที่นิยมแล้ว ยังให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและเหมาะกับบ้านในเขตร้อนชื้นมากที่สุด แต่มีราคาแพง เพราะในปัจจุบันหาไม้ได้ยากขึ้น จึงต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ควรเริ่มโดยใช้ไม้ถูพื้นปัดฝุ่น จากนั้นจึงเช็ดด้วยพรมถูพื้นชุบน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาดแบบเจือจางแล้วเช็ดให้แห้งโดยเร็ว เราสามารถดูแลผิวไม้ได้โดยการเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบผิวไม้ชนิดถาวร ซึ่งจะช่วยป้องกันผิวไม้จากหยดน้ำและคราบสกปรกต่างๆ แถมยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย 

พื้นไม้ลามิเนต

สำหรับไม้ลามิเนตนี้ไม่ใช่ไม้จริง 100% แต่เป็นไม้สำเร็จรูปที่ผลิตขึ้นมาด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ โดยยังคงมีพื้นฐานที่มีไม้เป็นส่วนประกอบ วิธีการดูแลรักษาพื้นไม้ลามิเนตนั้นง่ายมาก เพียงใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำที่ผสมน้ำยาทำความสะอาดเพียงเล็กน้อย ทำความสะอาดเพียงสัปดาห์ละครั้ง  พื้นไม้ลามิเนตต้องการการดูแลรักษาน้อยมาก เนื่องจากการออกแบบสำหรับการใช้งานที่เหมาะสมกับที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ จึงหมดปัญหาเรื่องการเก็บฝุ่นเหมือนพื้นกระเบื้อง ทำให้บรรยากาศของการพักอาศัยดีขึ้นไปด้วย

พื้นกระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องโมเสก

ถือเป็นวัสดุที่มีรูปลักษณ์ดี มีสีสัน ผิวสัมผัส และมีลวดลายให้เลือกมากมาย มีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับครัวที่ใช้งานหนัก และมีโครงสร้างแบบอิฐ เพื่อให้รองรับน้ำหนักได้ดี ถ้าแผ่นไหนแตกก็สามารถซ่อมเฉพาะแผ่นนั้นได้ สำหรับการดูแลรักษา ควรดูแลระหว่างรอยต่อเป็นพิเศษ ส่วนการทำความสะอาด ให้ใช้แปรงขนอ่อนชุบน้ำสบู่ หรือผงซักฟอกขัด ถ้ามีเชื้อราควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแล้วล้างออกด้วยน้ำ

พื้นหินอ่อน

หินอ่อนเป็นหินชนิดที่มีเนื้อไม่แข็งนัก จึงเกิดรอยขูดขีดได้ง่ายโดยเฉพาะหากมีเศษทราย หรือหินมาเสียดสี เช่น ทรายที่มากับรองเท้า หรือที่แทรกตัวอยู่ตามซอกขาโต๊ะ ขาเก้าอี้

การทำความสะอาดก็ต้องยกเฟอร์นิเจอร์ขึ้นทำการปัดกวาดเช็ดถูเหมือนวัสดุอื่นๆ เมื่อหมดฝุ่นแล้ว จากนั้นก็ให้ใช้แวกซ์ถูพื้นพร้อมเครื่องขัดไฟฟ้าที่จะช่วยให้พื้นเกิดความเงางาม แต่ปัญหาคือ หลังจากขัดเรียบร้อยพื้นมักจะเหนียวเพราะแวกซ์ไม่ซึมลงสู่เนื้อหิน

พื้นพรม

พรมเป็นวัสดุปูพื้นที่มีอายุการใช้งานสั้น สกปรกก็ง่าย แถมยังติดไฟอีกต่างหาก

การดูแลรักษาและทำความสะอาดจึงต้องเป็นไปอย่างพิถีพิถัน วิธีดูแลรักษาพรมที่ปูพื้น เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ และในการกำจัดกลิ่นพรม ก็จะต้องใช้ผงเบกกิงโซดา (Baking Soda) โรยให้ทั่วพื้นพรม แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จึงทำการดูดฝุ่น จะทำให้พรมปลอดจากกลิ่นได้

ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นด่าง (ผลิตภัณฑ์ซักฟอกบางยี่ห้อ) กับพรมขนสัตว์ เพราะอาจจะทำให้เส้นใยเสียหายและสีย้อมซีดจางลง

นี่เป็นเพียงวิธีคร่าวๆที่จะทำให้พื้นบ้านของคุณสะอาดเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าหากไม่อยากเสียเวลาหรือยุ่งยาก การเรียกแม่บ้านทำความสะอาดกับ BEEclean ก็ถือเป็นการช่วยลดภาระส่วนนี้ลงไปได้เยอะเลยทีเดียว