เลือกซื้อ “ตู้เย็น” ให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน

ตู้เย็น นับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีความจำเป็นอันดับหนึ่งในทุกครัวเรือน ปัจจุบันมีตู้เย็นมากมายหลากหลายรุ่นวางขายในตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคเลือกตามความต้องการใช้งาน จนบางครั้งนักช้อปมือใหม่ที่เพิ่งซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเองเกิดความสับสนว่าแท้จริงแล้วตัวเราเองนั้นเหมาะสมกับการใช้งานตู้เย็นแบบไหน และควรเลือกซื้อตู้เย็นอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานของเรา บทความนี้ BEEclean จึงนำเทคนิคในการเลือกตู้เย็นมาฝากกันว่า การที่เราจะซื้อตู้เย็นนั้นต้องดูอะไรบ้าง

ดีไซน์

เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านยังเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้านเช่นกันอย่างตอนนี้เทรนด์ของห้องครัว สีดำ สีเทา หรือสีเข้มกำลังเป็นที่นิยม ดังนั้น ตู้เย็นสีดำจึงเป็นสีใหม่ที่ออกแบบมาให้เข้ากับชุดครัวหรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านสมัยใหม่ก็อาจนำมาไว้ในห้องครัวเพื่อความสวยงามได้อีกด้วย

ตอบสนองรูปแบบการใช้งาน

กล่าวถึงรูปลักษณ์ภายนอกกันไปแล้ว คราวนี้จะพูดถึงสไตล์การใช้งานภายในตู้เย็นกันบ้าง โดยส่วนนี้ต้องดูว่าพื้นที่ในตู้เย็นตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันหรือไม่ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานผักและผลไม้ ขนาดช่องใส่ผักและผลไม้จึงต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก เพราะจะเป็นพื้นที่ที่ช่วยควบคุมความเย็นและความชื้นอย่างเหมาะสม ช่วยให้ผักและผลไม้สดได้นาน หรือใครนิยมรับประทานอาหารแช่แข็ง หรือต้องการเก็บวัตถุดิบที่จำเป็นต้องอยู่ในอุณหภูมิต่ำ ก็ควรพิจารณาในส่วนของช่องแช่แข็งว่าอย่างไรจึงจะเหมาสม นอกจากนี้ ยังมีตู้เย็นบางรุ่นที่ออกแบบมาโดยแบ่งแยกช่องแช่เย็นออกเป็นหลายๆ ช่องอย่างชัดเจน เพื่อตอบสนองการจัดเก็บวัตถุดิบและอาหารแบบแบ่งแยกประเภทออกจากกันได้อย่างเป็นสัดส่วน

จำนวน “คิว” ตามความเหมาะสม

Cubic feet หรือที่เรียกกันติดปากว่า “คิว” เป็นหน่วยลูกบาศก์ฟุต ซึ่งเป็นขนาดของตู้เย็น โดยคำนวณจากความจุของเนื้อที่ภายใน เพื่อพิจารณาจากค่าความเหมาะสมต่อการใช้งาน สำหรับสมาชิกภายในครอบครัว 2-3 คน เหมาะสำหรับตู้เย็นที่มีขนาดประมาณ 6 คิวขึ้นไป กรณีสมาชิกในครอบครัวมีมากกว่า 5 คน เหมาะกับตู้เย็นที่มีขนาด 15 คิวขึ้นไป

ช่วยประหยัดพลังงาน

สิ่งที่จะการันตีการประหยัดพลังงานที่ทุกคนมักคิดถึงอันดับแรก คือ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยฉลากนี้มาในรูปแบบสติกเกอร์ที่ติดอยู่หน้าตู้เย็น ออกโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นผู้ตรวจสอบและรับรองคุณภาพ อย่างน้อยเบื้องต้นก็มั่นใจว่าจะไม่กินไฟอย่างแน่นอน ตามมาด้วยการเลือกตู้เย็นที่มีฉนวนกันความร้อนหนา เป็นชนิดแบบโฟมอัด ซึ่งจะช่วยกักเก็บความเย็นได้ดี ไม่ให้สูญเสียความเย็นมากเกินไป ปิดท้ายด้วยการเลือกตู้เย็นที่ใช้ไฟฟ้า 220-330 โวลต์ เพราะหากซื้อตู้เย็นที่ใช้ 110-120 โวลต์ ก็จะต้องใช้หม้อแปลงลดแรงดัน จะทำให้กินกระแสไฟฟ้ามากขึ้น

การตัดสินใจเลือกซื้อตู้เย็น หรือแม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่นๆ อย่างไรก็ควรพิจารณาจากการใช้งานที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับการใช้ชีวิต มากกว่าการคัดเลือกจากฟังก์ชั่นที่ดีเลิศอย่างเดียว เพราะมันจะกลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ทันที หากมีฟังก์ชั่นดีแสนดีแต่ไม่เคยได้ใช้ ดังนั้นแล้ว เลือกตู้เย็นที่ถูกใจ ใช้งานได้จริง ดีกว่าจ่ายเงินซื้อฟังก์ชั่นราคาแพง แต่ทำได้เพียงมองให้มันเสียหายไปตามกาลเวลา หากต้องการเรียกแม่บ้านทำความสะอาด อย่าลืมนึกถึงบริการแม่บ้าน BEEclean นะคะ


สนใจเรียกแม่บ้าน โหลดเลย 

Download Application : คลิก !

สอบถามรายละเอียดการเรียกแม่บ้าน  Add Line : @beeclean หรือ คลิก!